แนวทางการจัด Deck Hermione สาย Thunderstorm ใน Harry Potter- Magic Awakened

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวMagic Awakenedด้วยนะครับ อย่างที่เรารู้กันว่าเกมนี้เป็นเกมจากซีรีส์Harry Potterที่เป็นโลกแห่งพ่อมดแม่มด มีการร่ายคาถาต่อสู้กัน และระบบ Duel หรือ PVP ในเกมนี้ก็ค่อนข้างสนุกและน่าสนใจใช้ได้เลย แม้ว่าเกมจะเป็นเกมการ์ดแต่ก็มันส์ใช่ย่อย แถมยังสามารถจัด Deck ได้หลากหลาย ซึ่งในบทความนี้เราจะมาสอนแนวทางการจัด Deck Hermione สาย Thunderstorm กันครับ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปรับชมกันเลย

Echoes Card คือ Hermione Granger

เป็นการ์ดบังคับอยู่แล้วถ้าคุณจะเล่นสายนี้ เพราะว่า Hermione Granger คือกุญแจสำคัญที่ทำให้การเล่นสายนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยความสามารถของ Hermione นั้นคือจะช่วยลดค่า Cost ของการ์ดที่มี Cost สูงสุดภายใน Deck ลงครึ่งนึง ทุกครั้งที่มีการร่าย Spell ทุก ๆ 3-4 ครั้ง (แล้วแต่ระดับของการ์ด) แถมยังมีโอกาสอีก 40% ที่จะช่วยเพิ่มเลเวลของการ์ดที่ลด Cost นั้นให้สูงขึ้นอีกด้วย แต่มีข้อแม้ว่า Cost ที่ลดลงนั้นจะลดสูงสุดได้ไม่เกิน 4 MP เท่านั้น ดังนั้นถ้าเรากะจะเอามาลดการ์ดใหญ่ที่มี Cost หลักสิบอาจจะไม่เวิร์ค แต่มันก็มากพอที่จะใช้เวทย์แรง ๆ ที่มีค่า Cost ตั้งแต่ 4-7 ให้เหลือเพียงแค่ 2-4 ได้อย่างสบาย ๆ

ข้อควรระวัง

คุณควรคำนึงว่าเอฟเฟกต์นี้มีผลแค่การใช้ Spell Card เท่านั้น จริงอยู่ที่เอฟเฟกต์จะลด Cost ของการ์ดที่มีค่า Cost สูงสุดใน Deck แต่การใช้ Summon Card จะไม่ถูกนับจำนวนครั้งจากเอฟเฟกต์การ์ดใบนี้ ถ้าคุณต้องการจะเล่นสายนี้กับ Summon Deck คุณจะต้องผสม Spell Card เข้าไปด้วยอย่างน้อยก็ต้อง 2-3 ใบ ซึ่งจะทำให้ขัดต่อประสิทธิภาพของ Deck Summon ตรงสายครับ เพราะกว่าจะเก็บ Stack ครบ 3-4 ครั้ง คุณต้องร่าย Spell ตั้ง 3-4 ใบ ถึงจะลด MP Cost ใบใหญ่ได้ 1 ครั้ง ในขณะที่คุณต้องแบ่งเนื้อที่ให้กับ Summon Card อีกครึ่ง Deck กว่าจะลด Cost ได้ใบนึง อีกฝ่ายคงทำเกมนำคุณไปไกลแล้ว ทางที่ดีแนะนำว่าถ้าอยากเล่น Summon ให้เลือกจัด Deck ตามสายของมันจะตรงจุดกว่าและมีประสิทธิภาพกว่า สามารถดูแนวทางการจัด Deck Summon ได้ ที่นี่

Companions Card ที่แนะนำ

Ron Weasley(ถ้ามี) – รอนเป็นการ์ดที่ดีมาก ๆ ในแง่ของการแทงค์และการแก้เกมศัตรู เพราะเวลาลงครั้งแรกถ้ามีศัตรูอยู่รอบ ๆ ศัตรูทุกตัวจะถูก Control ทั้งหมด โดยจะเปลี่ยนเป็นตัวเล็กและเคลื่อนไหวได้ลำบาก ในขณะเดียวกันเรายังสามารถลงคาถาเพื่อโจมตีขณะที่ศัตรูติด CC ได้อีกด้วย หลังจากทำ CC ใส่ศัตรูแล้ว รอนจะพุ่งเข้าไปหาเป้าหมายแบบ Random สร้างดาเมจพุ่ง และยืนแทงค์ได้นานมาก แถมยังยิงศัตรูที่เข้ามาในระยะได้อีกด้วย นอกจากนี้ ถ้ารอนฆ่าศัตรูได้ 6 ตัว รอนจะเรียกพวกขึ้นมาอีก เรียกว่าโกงในโกง ถ้าใครมีควรใช้งานอย่างยิ่ง

Hermione Granger(ควรมี) – เฮอร์ไมโอนี่เป็นตัวที่ช่วยเสริมดาเมจให้กับ Spell Card ของเราเป็นอย่างดี เพราะเธอจะช่วยร่ายคาถาแบบเดียวกับเราอีกครั้ง เหมือนกับการร่ายคาถา x2 ออก 2 เท่า มันทำคอมโบการร่ายคาถาใหญ่แรง ๆ นั้นมีผลออก 2 ครั้ง แต่จะมี Cooldown 10 วินาที ส่วนใหญ่จะเอามาใช้กับ Thunderstorm ให้ฟ้าผ่าออก x2 บอกเลยว่าแรงมาก หรือจะเอาไว้ช่วยเคลียร์ Summon ของอีกฝ่ายก็ได้เหมือนกัน

Cassandra Vole– Cassandra จะเป็นตัวที่เรียกออกมาแล้วยืนอยู่เฉย ๆ เหมือนป้อมปราการที่มั่นคง พร้อมกับรัศมีการโจมตีที่ค่อนข้างไกล ข้อดีของเธอคือทุกการโจมตีของเธอจะผลักศัตรูที่กระเด็นถอยหลังไปนิดหน่อย ทำให้เข้าถึงตัวเธอยากขึ้น เรามักจะลงเธอเพื่อตั้งป้อมรับมือฝูง Summon ของศัตรูที่เข้ามาจู่โจมฝ่ายเรา ซึ่งเป็น Companions สายป้องกันที่มีประสิทธิภาพมาก หรือถ้าคุณได้เปรียบจะเอาเธอไปวางไว้กลางกระดานเพื่อใช้รัศมีของเธอกดดันอีกฝ่ายก็ได้เช่นกัน

Frey Twins– เป็นการ์ดที่ได้ตามเนื้อเรื่องและเป็นกำลังหลักในการโจมตีได้ดี เพราะอย่างน้อยมันก็เรียกออกมาถึง 2 ตัว Frey Twins จะ Summon ขึ้นมาคู่ซ้ายขวาของศัตรู และช่วยรุมยิงจากระยะไกล ทำดาเมจได้ไม่มากแต่เน้นตอดเรื่อย ๆ ในกรณีที่การต่อสู้กำลังนัว ๆ กันอยู่จนหลุดโฟกัส Frey Twins จะเป็นตัวที่ยิงฟรีเรื่อย ๆ เพราะดาเมจมันอาจจะน้อยจนศัตรูไม่ได้สนใจ ช่วงท้ายของเกมจะมีประโยชน์มาก

Grawp– การ์ดนี้ถือว่าเป็นทางเลือกถ้าเกิดว่าคุณไม่รู้ว่าจะใส่การ์ดอะไรลงไป เพราะอย่างน้อย Grawp ก็มีความถึกที่แทงค์ได้ดี แถมยังวิ่งไล่ศัตรูได้ ถ้า Grawp ได้เตะสักครั้งสองครั้งก็ถือว่าแรงมาก แม้โอกาสโดนจะต่ำไปบ้าง แต่ก็แทงค์ได้ดีพอสมควร

Step การจัดลำดับการลง Companions Card

ใบที่ 1 – ถ้าคุณมี Ron Weasley คุณควรถือไว้อยู่ในมือ ไม่ต้องรีบลง เอาไว้ตัดเกมศัตรูเท่านั้น แล้วเล่นการ์ด Cost ต่ำที่เตรียมมา เพราะถ้าเจอสาย Summon พวกเขาจะรีบวางรากฐานแน่ ๆ เอาไว้แก้เกมสาย Summon ได้ดี แต่ถ้าใครไม่มี Ron Weasley แล้วอยากทำเกมไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็สามารถเลือก Frey Twins ลงไปยิงกดดันศัตรูพร้อมกับการปล่อยคาถา Cost น้อยเพื่อให้เลือดของเราเยอะกว่าศัตรูที่ช่วงท้ายครับ
คำพูดจาก คาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย

ใบที่ 2– ช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาแห่งการบุก และเป็นช่วงเวลาที่คุณควรมีการ์ด Thunderstorm อยู่ในมือแล้ว คุณสามารถเรียก Hermione Granger ลงมาแล้วร่าย Thunderstorm แบบ x2 ได้เลย หรือถ้าจังหวะมันเสียเปรียบจริง ๆ ก็อาจจะใช้คาถาอื่นในการแก้เกมก่อนก็ได้ หรือถ้าคุณไม่มี Hermione Granger ก็สามารถใช้ Cassandra Vole ในการลงหลักปักฐานให้มั่นคงไว้แก้เกมศัตรูก็ได้

ใบที่ 3– ช่วงท้ายจะเป็นหน้าที่ของ Frey Twins ถ้าคุณไม่ได้ตั้งไว้เป็นใบที่ 1 หรือไม่ก็ใช้ Grawp หรือ Cassandra Vole ถ้าคุณไม่ได้ตั้งเป็นใบที่ 2 เพราะช่วงท้ายจะเป็นช่วงของการกดดันเอาตัวรอด เพราะหน้าที่ของใบสุดท้ายคือหลอกล่อให้ศัตรูไม่สนใจตัวเรา แต่เราจะโฟกัสไปที่การตอดเลือดของศัตรูด้วยทุกอย่างที่เรามี ดังนั้นใบที่ 3 จะเป็นอะไรก็ได้ครับที่ทำให้ศัตรูต้องสนใจ

Charm Card 8 ใบที่แนะนำ

1. Niffler – ของตายที่ต้องมี ใช้เร่ง MP ให้ร่ายคาถาได้มากขึ้น

2. Thunderstorm – Key Card ของสายนี้ ดาเมจหลักและรากฐานของเด็ค

3. Incendio – การ์ดสารพัดประโยชน์ AOE ดาเมจ ใช้ละลาย Summon หรือโยนใส่คนก็ได้

4. Nebulus – การ์ดสำคัญที่ทำให้เรารอด ใช้หลบ Summon ฮีลตัวเอง และหลอกล่อศัตรู

5. Spell Card (Cost 2) – แนะนำเป็น Expluso, Oppugno, Broomstick

6. Spell Card (Cost 2) – แนะนำเป็น Expluso, Oppugno, Broomstick

7. Inflatus – การ์ดจับสารพัดประโยชน์ ทำดาเมจเสริม จับศัตรู หรือต่อคอมโบก็ได้

8. Weasleys Wildfire Whiz-Bangs – การ์ดมหาดาเมจที่ Summon ทุกตัวต้องหาย หรือใช้กับคนก็ได้

Step การเล่น Deck Hermione สาย Thunderstorm 

Step 1 ช่วงเริ่มเกม คือช่วงเวลาแห่งการเซ็ตอัพ

หลังจากที่เริ่ม PVP เราจะมาดูกันว่าบนมือทั้ง 4 ใบ มีอะไรให้เราเล่นบ้าง ถ้าคุณจัดเด็คตามที่บอกด้านบน คุณจะมีการ์ดต่ำกว่า Cost 4 อยู่ 5 ใบ ที่คุณไม่ควรใช้ก็จะมีแค่ Thunderstorm, Incendio และ Weasleys Wildfire Whiz-Bangs เท่านั้น ต่อให้ดวงซวย 3 ใบนี้ขึ้นมือหมดเลย ก็ยังเหลือช่องให้เล่นอีก 1 ใบเสมอ ให้คุณเล่นที่การ์ด Cost ต่ำกว่า 4 แบบเททิ้งได้เลยครับ ไม่ต้องกั๊ก เพื่อเป็นการรีการ์ดบนมือหา Thunderstorm กับ Weasleys Wildfire Whiz-Bangs ให้ขึ้นมือให้ได้เร็วที่สุด และเป็นการ Stack Echoes Card ให้ครบจำนวนให้ไวที่สุด สิ่งที่คุณควรเซ็ตอัพให้ได้ในช่วงเริ่มเกมคือ Thunderstorm ที่ถูกลด Cost เหลือ 3 MP หรือ Weasleys Wildfire Whiz-Bangs ที่ถูกลด Cost เหลือ 4 MP ครับ โดยสรุปคำนวณคร่าว ๆ แล้วคุณจะต้องใช้การ์ดประมาณ 6-8 ใบ หรือคิดเป็น 12-16 MP ในช่วงเริ่มเกมให้ได้ครับ (แล้วแต่ความแรร์ของ Echoes Card ของคุณ)

ส่วน Companions Card ถ้าคุณมี Ron Weasley ให้ถือไว้รอแก้ทางอีกฝ่ายก็พอ หรือถ้าคุณไม่มี Ron Weasley แล้วใช้ Frey Twins ไปช่วยยิงตั้งแต่แรกเริ่มก็แล้วแต่ความชอบ เพราะช่วงต้นเกมถ้าเจอสาย Summon ฝ่ายนั้นจะเซ็ตอัพค่อนข้างง่ายและปล่อยลงมาเรื่อย ๆ การมี Frey Twins มาช่วยยืนยิงควบคู่ไปกับการใช้ Spell Card Cost ต่ำ จะช่วยดักทาง Summon เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้บ้าง แต่ถ้าอีกฝ่ายเล่นสาย Spell เหมือนกัน ก็ถือว่า Frey Twins จะช่วยตอดได้ดีช่วงต้นเกม ทำให้เลือดเรานำกว่าอีกฝ่ายสักเล็กน้อย

Step 2 ช่วงเริ่มบุกจะแบ่งออกเป็น 2 แบบให้เลือก

แบบที่ 1: [Combo] Inflatus + Weasleys Wildfire Whiz-Bangs (ใช้ Cost 7)

ถ้าศัตรูเป็นพวกหลบไม่เก่ง ไม่ได้เล่น Echoes Card เป็น Dobby หรือมี Companions Card เป็น Rubeus Hagrid ที่จะทำให้เขาหลบง่าย ๆ ประกอบกับคุณมีความแม่นและความเร็วในการลง 2 การ์ดพร้อม ๆ กัน ขอแนะนำให้ใช้คอมโบ Inflatus + Weasleys Wildfire Whiz-Bangs ซึ่งจะทำดาเมจได้ดีกว่า Thunderstorm แต่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง ถ้าพลาดแล้วพลาดเลยเสียดาย 7 MP ที่ร่ายไป แต่ถ้าโดนจัง ๆ ทุกดอกก็บอกเลยว่าเลือดหายประมาณ 20-30% ต่อครั้ง วิธีใช้คือการโยน Inflatus เปิดไปก่อนแล้ว โยน Weasleys Wildfire Whiz-Bangs ตามลงไปในจุดเดียวกันทันที โดยมีเงื่อนไขว่าต้องโยน Weasleys Wildfire Whiz-Bangs ตั้งแต่ Inflatus ยังไม่ตกถึงพื้นให้ทัน เพราะถ้าคุณโยนไม่ทัน ศัตรูจะหลบได้แม้ว่าเขาจะเดินธรรมดา เพราะ Weasleys Wildfire Whiz-Bangs จะแรงสุด ๆ ในดาเมจฮิตสุดท้ายแต่ใช้เวลานานมาก ถ้าคุณรอคอนเฟิร์มว่า Inflatus จะโดนหรือเปล่า ไม่มีทางทำดาเมจได้ทันแน่นอน เพราะงั้นจึงมีความเสี่ยงสูงที่ถ้าศัตรูหลบ Inflatus ได้ก็จะเสีย 7 MP ฟรี ๆ นั่นเอง

แบบที่ 2: [Combo] Hermione + Thunderstorm x2 (ใช้ Cost 3 แต่รอนานหน่อย)

ถ้าคุณอยากเมคชัวร์ ไม่ต้องเล็ง ไม่ต้องแม่น อยากเน้นโดนชัวร์ ๆ ก็สามารถเลือก Combo นี้ได้ แต่มีข้อเสียที่คุณต้องรอนานอีกเท่าตัวจากคอมโบแรก เพราะ Echoes Card Hermione ที่เราเลือกมา จะลด Cost ให้กับการ์ดที่มี Cost สูงสุดใน Deck นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่มีการลด Cost นั้น Weasleys Wildfire Whiz-Bangs ที่ใช้ 7 MP จะถูกลดให้เหลือ 4 ก่อน จากนั้นค่อยเป็น Thunderstorm ที่มี 6 MP ให้เหลือ 3 แต่ถ้าเกิดว่าเรามี Thunderstorm 3 MP พร้อมแล้ว ก็สามารถเรียก Hermione ออกมาแล้วยิง Thunderstorm ต่อได้เลย และถ้าเราจงใจยิงแค่ Thunderstorm ก็จะทำให้ Weasleys Wildfire Whiz-Bangs นั้นเหลือ 4 MP ตลอดเวลา ดังนั้นหลังจากนี้ Thunderstorm จะเหลือ 3 MP ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง แถมเรายังถือ Weasleys Wildfire Whiz-Bangs ไว้ละลาย Summon อีกฝ่ายได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องเปิดด้วย Inflatus ด้วย หลักการคือใช้ Thunderstorm ทำดาเมจแบบไม่ต้องเล็งแล้ววิ่งหนีอยู่หลังกระดาน แล้วถือ Weasleys Wildfire Whiz-Bangs ไว้เป็นการ์ดป้องกันนั่นเองครับ

Step 3 วิธีแก้เกมเมื่อคุณเสียเปรียบ

วิธีแก้เกมสาย Summon

ในกรณีที่อีกฝ่ายเป็นสาย Summon คุณมักจะถูกกดดันด้วย Summon ปริมาณมากเดินมาทางฝั่งของคุณ ให้คุณหยุดโฟกัสการทำคอมโบไปก่อน และห้ามใช้ Thunderstorm เพราะเป็นการทำดาเมจแบบสุ่ม ถ้าคุณเสียเปรียบมาก ๆ Thunderstorm จะไม่ช่วยแก้เกมมากนักเพราะหวังผลไม่ได้ คุณควรโฟกัสไปที่การใช้ Incendio หรือลด Cost ของ Weasleys Wildfire Whiz-Bangs ไว้บึ้ม Summon ฝ่ายศัตรูจะง่ายกว่า ถ้าเจอ Summon ตัวใหญ่ตัวเดียวก็ไม่ต้องกังวลถ้าคุณมี Oppugno ที่มีประสิทธิภาพเมื่อต่อสู้กับศัตรูเป้าเดี่ยวแถม Cost แค่ 2 MP และ Companions Card อย่าง Cassandra Vole จะช่วยคุณตรึงพื้นที่ได้ดีมากหากคุณวางถูกจุด แต่อย่าให้ Cassandra ไปยืนแทงค์เด็ดขาดเพราะเธอค่อนข้างบาง ถ้าเลือดยังเยอะอยู่การเอาตัวหลักไปแทงค์แทนจะคุ้มกว่า แต่ถ้าเลือดน้อยก็ต้องใช้วิธีวิ่งวนสร้างสถานการณ์เอาครับ รอจนกว่า Weasleys Wildfire Whiz-Bangs จะพร้อมใช้งาน อันนี้คือได้ผลแน่นอน Summon ตัวไหนก็หายถ้าโดนเต็ม ๆ

วิธีแก้เกมสาย Spell

โดยส่วนใหญ่ Deck Hermione จะไม่ค่อยมีปัญหากับสาย Spell ครับ เพราะว่าธรรมชาติของการเล่นสายนี้จะค่อนข้างปล่อยการ์ด Cost น้อยแบบหมดหน้าตักอยู่แล้ว ดังนั้นปริมาณดาเมจจากการร่ายคาถารัว ๆ นั้นจะทำให้ HP ของอีกฝ่ายน้อยกว่าเราอยู่แล้ว (ถ้ายิงโดน) วิธีสู้กับสาย Spell เพียวไม่มี Summon คือแค่ต้องหลบให้ได้ครับ โดย Key Card ที่ทำให้เราได้เปรียบคือ Nebulus การ์ดหมอกล่องหนที่จะทำให้ศัตรูมองไม่เห็นเรา แต่หมอกก็มีรัศมีกว้างกว่าสกิล AOE ยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น Incendio, Expulso, Inflatus หรือคาถาเส้นตรงอย่าง Accio หรือ Ventus ทำให้คุณสามารถหลอกล่อศัตรูได้ว่าคุณเดินเข้าไปตรงกลางหมอก แต่พอศัตรูมองไม่เห็นคุณแล้วก็แอบเปลี่ยนจุดยืนเป็นขอบหมอก ในกรณีที่ศัตรูอยากจะไล่คุณออกมา เขาจะโยนคาถาลงกลางหมอกเพื่อให้มีโอกาสโดนคุณมากที่สุด แต่ถ้าคุณยืนตรงขอบคุณจะไม่ได้รับดาเมจเลยเพราะรัศมีหมอกมันกว้างกว่ารัศมีคาถา นั่นก็เป็นการหลอกล่อให้ศัตรูเสีย MP เล่น ๆ ในตอนสู้กับสาย Spell ครับ

Step 4 ช่วงท้ายเกม วัดใจและไหวพริบ

Deck Hermione ที่ผมแนะนำนี้จะไม่เหมือน Deck Summon ที่เวลาจะชนะคือมันมีแนวโน้มมาแต่ไกลเลยว่ากำลังจะชนะ แต่สำหรับ Deck Hermione นี้คุณจะต้องปะทะกับศัตรูบ้าง รับดาเมจแทน Companions บ้างบางครั้ง และบางครั้งต้องเสี่ยงโจมตีร่างหลักถึงแม้ว่าจะโดน Summon ศัตรูกำลังไล่ต้อนอยู่ ทำให้ช่วงท้ายของเกมจะเป็นอะไรที่เหมือนจะ 50-50 แต่บอกเลยว่าไม่ใช่ครับ ถ้าศัตรูเลือดน้อยเท่าคุณไม่ได้แปลว่าสูสี แต่หมายถึงคุณกำลังได้เปรียบ หน้าที่ของคุณคือวิ่งให้ว่อนกระดานครับ อย่าหยุดเพื่อเป็นการจู๊ค Summon ศัตรูและหลบคาถาที่ร่างหลักเขายิงมาด้วย ในขณะที่วิ่งจู๊คอยู่นี้ให้ปล่อย Thunderstorm ทิ้งไว้เลยครับ แล้วมีการ์ด Cost 2-3 เท่าไหร่ โยนใส่ตัวหลักอีกฝ่ายให้หมด เพราะเราได้เปรียบมากจากการ์ดที่ใช้มี Cost ต่ำ ต่อให้ได้ Niffler ก็ปล่อยน้องไปชน Summon ไปเลย จะได้ลด Thunderstorm เหลือ 3 MP แล้วให้ฟ้าผ่าฟรีครับ ยิ่งมี Nebulus คือสบายจัด ๆ ยืนหลบในหมอก Summon ก็ไม่ไล่ หลอกหลบคาถาในหมอกก็ได้ ต่อให้ศัตรูจะร่าย Thunderstorm เหมือนกันก็ไม่โดนเพราะอยู่ในหมอกครับ

สรุปข้อดีข้อเสียของ Deck Hermione สาย Thunderstorm 

ข้อดี

– เล่นมันส์มือ สนุก ร่ายคาถารัว ๆ เหมาะกับคนชอบยิงเองไม่ชอบ Summon
– รับมือสถานการณ์ได้กว้าง เพราะ Cost ต่ำใช้การ์ดได้บ่อยกว่าสายอื่น
– เปิดโอกาสให้ใช้การ์ด High-Cost ได้ง่ายขึ้น
– Thunderstorm สะดวกสบาย ไม่ต้องเล็ง
– มีคอมโบที่ดาเมจแรงสะใจ ละลายได้ทั้งคนทั้ง Summon

ข้อเสีย

– ในแพทช์ปัจจุบัน การ์ด Cost 2 มีให้เลือกเล่นค่อนข้างน้อย
– นอกจาก Thunderstorm คาถาอื่นของ Deck ต้องอาศัยความแม่นพอสมควร เพราะถ้าคอมโบพลาดจะเสียหายหนักมาก
– ใช้ไหวพริบในการเล่นค่อนข้างมาก ทั้งการเดิน การเล็ง การจัดการ MP และการหลอกล่อ

และนี่คือแนวทางการจัด Deck Hermione สาย Thunderstorm หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังเล่น Magic Awakened นะครับ หลายคนเล่น Deck Summon ไปเยอะแล้ว เผื่อว่าอยากหาแนวทางเด็คอื่น ๆ ที่เข้ากับตัวเองมากขึ้น โดยส่วนตัวผมชอบเด็คนี้มาก ๆ เพราะรับมือสถานการณ์ได้หลากหลาย เจอ Summon ก็ละลายได้ หรือเจอสาย Spell ด้วยกันก็ร่ายคาถาได้ถี่กว่า แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแนวทางการจัดเด็คที่ได้จากประสบการณ์ของผมเท่านั้น และผมก็ไม่มีการ์ด Hermione ด้วย แต่ก็สามารถเล่นสายนี้ได้เหมือนกันครับ ไม่ได้การันตีว่าจะชนะได้ 100% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไหวพริบของผู้เล่นและเลเวลของการ์ดด้วยครับ

ดาวน์โหลดเกม

Harry Potter Harry Potter: Magic Awakened MakinoJou NetEase

Related Posts